‘บริจาคด้านการแพทย์ได้ลดหย่อนภาษี’ ครม. ขยายอีก 3 ปี เหตุช่วย ปชช.ได้บริการทั่วถึง 26 ธันวาคม 2024Khun Nongข่าวประชาสัมพันธ์ ครม.อนุมัติหลักการสนับสนุนบริษัทห้างร้านเอกชน บริจาคด้านการแพทย์ – สาธารณสุขให้ 27 มูลนิธิ ลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ขยายเวลาบริจาคไปอีก 3 ปี คาดเสียรายได้ 2,700 ล้าน แต่ได้พัฒนาการแพทย์-สาธารณสุข ช่วย ปชช. เข้าถึงบริการสุขภาพอย่างมีคุณภาพครอบคลุมขึ้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2567 ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติอนมุัติหลักการ ร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการแพทย์และการสาธารณสุข) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อขยายเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุขและปรับปรุงเป็นมาตรการภาษีสำหรับสนับสนุนการพัฒนาการแพทย์และการสาธารณสุขให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างครบถ้วน ทั้งนี้ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุข ตาม พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 756) พ.ศ. 2565 และ พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 771) พ.ศ. 2566 กำลังจะสิ้นสุดระยะเวลาให้สิทธิหักลดหย่อนภาษี ในวันที่ 31 ธ.ค. 2567 นี้ นอกจากนี้ ที่ผ่านมา แม้รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณรายจ่ายด้านการสาธารณสุขเพิ่มขึ้นทุกปี แต่การพัฒนาบริการการแพทย์และบริการสาธารณสุขของประเทศให้ทั่วถึง และมีคุณภาพยังต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชน โดยเฉพาะการสนับสนุนผ่านองค์การสาธารณกุศลต่างๆ ซึ่งมีภารกิจโดยตรงในการส่งเสริมหรือการสนับสนุนสถานพยาบาล ดังนั้น เพื่อส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมสนับสนุนการพัฒนาบริการการแพทย์และบริการสาธารณสุขของประเทศอย่างต่อเนื่อง เห็นควรขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคด้านสาธารณสุขและปรับปรุงเป็นมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการพัฒนาการแพทย์และการสาธารณสุข เพื่อให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างครบถ้วน โดยยกร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … สำหรับสาระสำคัญของ ร่าง พ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … มีดังนี้ 1. ให้บุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล มีสิทธิหักลดหย่อนเงินบริจาคหรือหักรายจ่ายการบริจาคได้ 2 เท่า สำหรับการบริจาคเพื่อกิจกรรมหรือโครงการสาธารณกุศลหรือสาธารณประโยชน์ให้แก่องค์การหรือมูลนิธิ 27 แห่ง ได้แก่ สภากาชาดไทย, มูลนิธิชัยพัฒนา, ศิริราชมูลนิธิ, มูลนิธิจุฬาภรณ์, มูลนิธิโรคมะเร็ง, โรงพยาบาลศิริราช, มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในพระราชูปถัมป์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, มูลนิธิโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าที่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยามิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทรินทร์, มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี, มูลนิธิสมเด็จพระปิ่นเกล้า มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ กองทัพเรือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิโรงพยาบาลสวนดอก, คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มูลนิธิสนับสนุนสถาบันประสาทวิทยา, มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก, มูลนิธิกาญจนบารมี, มูลนิธิคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์, มูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์, มูลนิธิโรงพยาบาลพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ในพระสังฆราชูปถัมภ์, มูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์, มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ, มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิโรงพยาบาลเลิดสิน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, มูลนิธิสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ, มูลนิธิโรงพยาบาลหาดใหญ่ และมูลนิธิโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ที่เป็นการบริจาคผ่านระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ของกรมสรรพากร 2. ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สิน หรือการขายสินค้า หรือสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการบริจาคให้แก่หน่วยรับบริจาคดังกล่าว (การบริจาคทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น ที่ดิน รถยนต์ และทองคำ ฯลฯ) โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568 – 31 ธ.ค. 2570 โดยเป็นการขยายระยะเวลาออกไปอีก 3 ปี ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประมาณการว่า มาตรการทางภาษีดังกล่าวจะขยายเวลาออกไปอีก 3 ปี และให้สิทธิลดหย่อนได้ 2 เท่า คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรวมกันประมาณ 3 ล้านคน และจะสูญเสียรายได้ภาษีรวมกันประมาณ 2,700 ล้านบาท แต่ผลประโยชน์ที่ได้รับ จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ และบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพทั่วถึง และช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยมีบริการการแพทย์และบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน และช่วยให้ประเทศไทยมีงานวิจัยด้านการแพทย์และการสาธารณสุข รวมทั้งมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแพทย์เพิ่มขึ้น อ้างอิงแหล่งข่าวสารจากลิงค์นี้ https://www.thecoverage.info/news/content/7919